จากกรณี นางประสงค์ อายุ 56 ปี พร้อม นายเทพนิมิต บำรุงหงส์ ทนายกลุ่มพิทักษ์รักษ์ประชาชน เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.นครพนม หลังนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกชาย ถูกแก๊งวัยรุ่นกว่า 10 คนใช้ไม้เบสบอลและมีดรุมทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดข้างบ้านผู้ตาย ม.3 ต.นางัว อ.บ้านแพง เวลา 01.00 น. วันที่ 26 ต.ค.
แม่น้องเอ เปิดเผยว่า ลูกคนนี้เป็นคนสุดท้อง เปิดร้านซ่อมรถ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ก่อนเกิดเหตุช่วง 4 ทุ่ม ลูกบอกจะไปเที่ยวงานแพเซิ้งแข่งเรือ ซ้อนรถจักรยานยนต์ 3 คนไปกับภรรยาและเพื่อนรุ่นน้องอีก 1 คน ก่อนจะถูกรุมทำร้าย เพื่อนบ้านโทรมาบอกจึงรีบออกจากสวนยางไป รพ.บ้านแพง ซึ่งแพทย์ได้รักษาก่อนส่งต่อไปยัง รพ.นครพนม และเสียชีวิตในวันที่ 27 ต.ค.
ต่อมาวันที่ 28 ต.ค. ตนและทนายกลุ่มพิทักษ์รักษ์ประชาชน นำเอกสารหลักฐานและคลิปกล้องวงจรปิด ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพราะทราบมาว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเคยฆ่าคนตายมาแล้ว อีกทั้งผู้ก่อเหตุทั้ง 9 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี ที่ตนเจอหน้าพร้อมญาติที่ สภ.บ้านแพง ได้ยิ้มเยาะเย้ยใส่ตนไม่สะทกสะท้าน ตนหวั่นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหากคดียังไม่คืบหน้าจะยังไม่เผาลูกชาย
นางบี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ยืนยันว่าตนและสามีไม่รู้จักกับกลุ่มคนร้าย คนที่ก่อเหตุมาตามหาเด็กอีกกลุ่มซึ่งไม่ใช่สามีตน คนร้ายมีทั้งไม้เบสบอล มีด ขอนไม้ รุมทำร้ายสามีทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน อีกทั้งตนมีลูกสาว 3 ขวบ กลับต้องมากำพร้าพ่อ จึงเคาะโลงศพบอกสามีว่า “ตนกับลูกอยู่ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง”
พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.บ้านแพง กล่าวว่า ชุดสืบสวนจับกุมคนร้ายได้ทั้ง 9 คนแล้ว พร้อมยึดไม้เบสบอล 2 อัน มีดพร้า 1 เล่ม คนร้ายที่อายุ 18 ปี ได้ส่งศาลฝากขังแล้วพร้อมคัดค้านประกันตัว ที่เหลืออีก 8 คนเป็นเยาวชน จะนัดสอบปากคำและจะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งสาเหตุที่คดีล่าช้า เนื่องจากสหวิชาชีพนัดสอบปากคำเยาวชนได้แค่วันละ 2 ปาก
