รายงานจาก Weekly Women’s PRIME ของญี่ปุ่นเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้กับมะเร็งของชิเกโนะ ซาวาโกะ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ซึ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในวัย 38 ปี
“ตอนนั้น ฉันมักมีอาการปวดหลัง คลื่นไส้ และมีเลือดปนในอุจจาระ คิดว่าเป็นริดสีดวงทวารจึงไปพบแพทย์ แต่แพทย์พบรอยโรคในช่องท้องและวินิจฉัยว่าฉันเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3” ซาวาโกะกล่าว
แพทย์จึงให้ซาวาโกะเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อร้ายออกโดยทันที การผ่าตัดสำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่เธอยังต้องรับการรักษาและตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังมะเร็งไม่ให้กลับมา
หลังจากสุขภาพคงที่และออกจากโรงพยาบาล ซาวาโกะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอาหารเพื่อปกป้องระบบย่อยอาหาร พัฒนาสุขภาพ และป้องกันการกลับมาของมะเร็ง
3 กฎการกินของซาวาโกะ
1. กินตรงเวลาและครบ 3 มื้อ ซาวาโกะเชื่อว่าการกินตรงเวลาและกินให้ครบ 3 มื้อเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องสุขภาพลำไส้ ช่วยเพิ่มการทำงานของลำไส้ และป้องกันอาการท้องผูกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดภาระของระบบย่อยอาหารและลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ การกินครบมื้อและตรงเวลา ยังช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง
“ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน ก็ควรหาเวลากินอาหารครบ 3 มื้อ” ซาวาโกะแนะนำ
2. เพิ่มใยอาหารและอาหารหมักดอง ซาวาโกะให้ความสำคัญกับการเติมสารอาหารที่จำเป็นให้ร่างกาย โดยเธอกินอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ข้าวโอ๊ต เผือก แครอท บร็อกโคลี มันหวาน และอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล เธอเตรียมอาหารเหล่านี้เป็นเมนู เช่น มันหวานต้ม สลัดกะหล่ำปลีผสมแครอทกับน้ำส้มสายชูหมัก หรือโยเกิร์ตกับข้าวโอ๊ตและผลไม้สด
ซาวาโกะกล่าวว่าการกินผัก ผลไม้ และอาหารหมักดองอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน ใยอาหาร แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดการอักเสบ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันการกลับมาของมะเร็ง
3. กินช้าและเคี้ยวให้ละเอียด ซาวาโกะยังให้ความสำคัญกับความเร็วในการกิน เธอกล่าวว่า การกินช้าและเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยลดโอกาสการกินมากเกินไป ลดภาระของระบบย่อยอาหาร และปกป้องการทำงานของลำไส้
การออกกำลังกายช่วยพัฒนาสุขภาพ
นอกจากการปรับเปลี่ยนการกินแล้ว ซาวาโกะยังออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม การวิจัยทั่วโลกแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยลดการอักเสบในร่างกายและลดความเสี่ยงการกลับมาของมะเร็งลำไส้ใหญ่
เธอมักเดินออกกำลังกายหรือปีนเขาเป็นประจำ
“ด้วยการกินที่สมดุลและการออกกำลังกายเป็นประจำ สภาพร่างกายของฉันดีขึ้นมาก สุขภาพของฉันยังคงแข็งแรงแม้ผ่านมา 24 ปีหลังจากถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็ง มะเร็งลำไส้ใหญ่ของฉันไม่เคยกลับมาอีกเลย” ซาวาโกะกล่าว