โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สั่งสอบวินัย พันตำรวจเอก ปมชู้สาวภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ

พลตำรวจโทเสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ลงนามในหนังสือคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย จากกรณีนางสาวธณัฏฐา ให้สัมภาษณ์ถึงพันตำรวจเอก ภีมพจน์ อาจารย์ (สบ ๔) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะตำรวจศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งเป็นสามี ได้มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับนางศิรินัดดา ภริยาของอดีตนายตำรวจยศใหญ่ และจากการตรวจสอบยังพบอีกว่าในรายการหนึ่งเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พันตำรวจเอกภีมพจน์ ให้สัมภาษณ์ด้วยถ้อยคำสอดรับกับคำพูดของนางสาวธณัฏฐา ทำนองมีว่าการประพฤติตนไม่เหมาะสมทางเพศ ซึ่งการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและโรงเรียนนายร้อยตำรวจโดยส่วนรวม

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งคณะตำรวจศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ 108/2567 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการในสังกัดโรงเรียนนายร้อยตำรวจกระทำผิดวินัยได้สรุปความเห็นว่า กรณีดังกล่าวมีเหตุอันควรสงสัยได้ว่า พันตำรวจเอก ภีมพจน์ ซึ่งเป็นสามีของนางสาวธณัฏฐา ได้มีการประพฤติตนไม่เหมาะสมกับหญิงอื่น อันเป็นการกระทำที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่อาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียให้เกิดกับตนเอง ครอบครัว และหน่วยงาน การที่นางสาวธณัฏฐา และ พันตำรวจเอกภีมพจน์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อต่าง ๆ ตามหลักฐานที่พบสื่อให้เห็นว่า พันตำรวจเอกภีมพจน์ ในบริบทดังกล่าววิญญูชนย่อมเข้าใจได้ว่า พันตำรวจเอก ภีมพจน์ฯ ยอมรับถึงการมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนางสาวศิรินัดดาฯ เพียงแต่ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

ดังนั้นเมื่อ พันตำรวจเอก ภีมพจน์ เกี่ยวข้องกับหญิงอื่นโดยที่ตนมีภริยาอยู่แล้วและเกิดเรื่องเสื่อมเสีย และมีพฤติการณ์เป็นชู้หรือมีชู้กับภริยาของผู้อื่น จึงมีมูลเพียงพอรับฟังเชื่อได้ว่าพันตำรวจเอก ภีมพจน์ กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 112 (6) การกระทำอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เห็นควรให้แต่งตั้งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนทางวินัยต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ใน กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. 2547 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาในเบื้องต้นแล้ว เห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนนั้นอยู่ด้วยให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว