น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมศุลกากรเชียงคาน ต้องปิดด่านชั่วคราว เตรียมรับมวลน้ำจากเหนือ-ลาว

วันที่ 14 ก.ย. 2567 สถานการณ์น้ำโขงในจังหวัดเลย จากสถานีวัดระดับน้ำแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งเกินจุดวิกฤตระดับ 16 เมตร เกินกว่าระดับวิกฤติ 0.35 เมตร หลังจากนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยได้คาดการณ์ว่าในช่วงของวันที่ 15 – 17 ก.ย. ซึ่งน้ำโขงในเขตเชียงคาน ปากชม จะเป็นจุดพีคสูงสุด แต่จะไม่เกิน 17.50 ม. เนื่องจากน้ำโขงที่ไหลมาจากภาคเหนือของประเทศไทย และสปป.ลาว หลวงพระบาง และไหลผ่านเข้าน้ำโขงเขตอีสานเป็นด่านแรก ที่ อ.เชียงคาน

ล่าสุด ที่ด่านผ่านแดนถาวร บ้านคกไผ่ ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจพื้นที่และรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำโขง ขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง และเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ทางเกษตรของประชาชนที่อยู่ที่ลุ่มต่ำและใกล้ริมน้ำโขง

โดยสถานการณ์ตรงด่านผ่านแดนถาวรบ้านคกไผ่ ที่มีอาคารร้านค้า ของวิสากิจชุมชน น้ำโขงได้เออล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมตัวอาคาร และพื้นที่ลานจอดรถ รวมไปถึงสำนักงานของด่านศุลากากรเชียงคาน จุดคกไผ่ โดยระดับน้ำท่วมสูง 1-1.5 เมตร ต้องปิดด่านชั่วคราว ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชียวและขึ้นสูง ร้านค้าริมแม่น้ำโขงได้ปิดการค้าขาย ส่วนตำบลที่ติดริมตลิ่ง ขณะนี้น้ำได้เข้าท่วมแล้ว มีตำบลปากชม หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ตำบลห้วยพิชัย หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 8 และตำบลหาดคัมภีร์ หมู่ที่ 1 ส่วนพื้นที่ทางเกษตรและทรัพย์สินที่เสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

ส่วนนายสุชาติ แพ่งแป้น ชาวปากชม เล่าว่า เมื่อวานช่วงเย็นระดับน้ำลดไปแล้ว 10 เซนติเมตร แล้วกลับมวลน้ำมาเพิ่มขึ้นมาอีกตอนเที่ยงคืน และเพิ่มขึ้นมาอีกสูงกว่าเมื่อวานอีก ข้าวของเครื่องใช้ได้ขนย้ายกันไว้แล้วหลายวัน ตั้งแต่มีการแจ้งเตือนมาแล้ว มีเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านมาช่วยกัน ซึ่งตอนนี้ ก็เฝ้าดูสถานการณ์น้ำอยู่ ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกไหม หากเพิ่มคงตอนย้ายออกไปนอนข้างนอก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าช่วงวันที่ 15-17 กันยายน มวลน้ำจากเชียงราย และเขื่อนไซยะบูลี จะเข้าเขตจังหวัดเลยก้อนแรกที่อำเภอเชียงคาน