วันที่ 3 กันยายน 2567 จากกรณี “ศาลสั่งจำคุก ครูไพบูลย์ 8 ปี” หลังจากที่เป็นดราม่ามหากาพย์ที่อยู่ต่อเนื่องมายาวนานหลายปี สำหรับกรณีของ “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” กับอดีตภรรยา เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์ ที่มีคดีพรากผู้เยาว์ ล่าสุด 3 ก.ย.67 “ทนายเก่ง วิษรุษ” ทนายความของเอ๋ มิรา ได้เผยข่าวศาลอุทธรณ์ ตัดสินแล้ววันนี้ สั่งจำคุก8 ปี ไม่รอลงอาญา
ล่าสุด มีรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษานายไพบูลย์ ได้มีการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลชั้นต้นพิจารณาส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาประกัน จากนั้นเจ้าหน้าราชทัณฑ์คุมตัวนายไพบูลย์ไปคุมขังยังเรือนจำ เพื่อรอผลพิจารณาประกันของศาลฎีกา ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาพิจารณา 1-3 วันทำการ
สำหรับการฟังคำพิพากษาในวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวแก่โจทก์ร่วมนับแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวให้ปรับลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามพระราชกฤษฎีกากำหนด ซึ่งออกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามที่โจทก์ร่วมขอ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพั
โดย จุดเริ่มต้นของการฟ้องร้องนั้นเกิดจากการที่ เอ๋ มิรา ได้ไปออกรายการ โหนกระแส เล่าว่าคบกับ ครูไพบูลย์ ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีเงิน จนวันหนึ่ง ครูไพบูลย์ ได้รู้จักกับ กระต่าย พรรณนิภา ก็กลับมาคุยกันว่าอยากปั้นเด็กคนนี้ เวลาผ่านไป กระต่าย เริ่มมีชื่อเสียง ทั้งคู่ก็ไปทำงานด้วยกันบ่อยมากขึ้น และขอรัก กระต่าย ต่อไป จนในที่สุด เอ๋ ก็ทนไม่ไหวและขอหย่า
ซึ่งประเด็นดังกล่าว ทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นที่ถูกวิจารณ์กันอย่างมาก กระทั่ง เอ๋ มิรา ได้รับหมายศาลจากอดีตสามี ครูไพบูลย์ ที่ฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ส่งผลให้ภรรยาใหม่ กระต่าย พรรณนิภา เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท
ด้าน เอ๋ มิรา เองก็ได้ตัดสินใจฟ้องกลับ ครูไพบูลย์ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน โดยยื่นฟ้องในคดีพรากผู้เยาว์และกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นคดีอาญา คดีดังกล่าวสามารถยื่นฟ้องได้แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เพราะคดีดังกล่าวไม่มีอายุความ
เอ๋ ให้เหตุผลที่ตัดสินใจฟ้องอดีตสามีว่า ตอนแรกไม่คิดจะฟ้องเลย ถ้าจะฟ้องก็คงทำตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว แต่ตนก็คิดว่าเขาคือพ่อของลูกเลยไม่อยากมีเรื่อง แต่พอมาตอนนี้เขากลับมาฟ้องตนก่อน ถ้าตนยอมต่อไป ก็เหมือนตนยอมแพ้ ในเมื่อตนพูดความจริง ตนก็เชื่อว่าความจริงจะชนะทุกอย่าง
กระทั่งคดีความดังกล่าวล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปี จากนั้นไม่นาน เอ๋ มิรา ก็ได้โพสต์ข้อความเผยว่า ศาลได้พิพากษาออกมาแล้ว ตัดสินคดีพรากผู้เยาว์ จำเลยมีความผิดอาญามาตรา 319 จำคุกกระทงละ 2 ปี 4 กระทง จำคุก 8 ปี ชดใช้ค่าเสียหาย 350,000 บาท ไม่รอลงอาญา พร้อมขอบคุณทุกคนที่ทวงคืนความยุติธรรมให้