วันนี้ (7 พ.ค. 2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงดรามา “โน้ส อุดม” ว่า อยากจะชวนสังคมตั้งสติและมีวุฒิภาวะกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อดูทั้งบริบทที่เป็นประเด็นแล้ว โดยโน้ส อุดม บอกว่าอยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ได้ไปกาญจนบุรีเพื่อทำแพ พบว่ามันไม่ง่าย และหากฟังด้วยใจที่เป็นธรรม ก็จะเข้าใจว่าโน้ส อุดม ต้องการสื่อสารอะไร ตนอยากจะชวนสังคมตั้งสติ ดูบริบทก่อน ฝั่งด้วยกันทั้งหมดก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะสื่อสารที่จะทำให้คนไม่สบายใจอย่างที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้
เมื่อถามว่าการพูดถึงเรื่องนี้บนเวทีทอล์ก มีการพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ด้วย มองว่า สามารถวิจารณ์ได้อย่างสุจริตในเวทีสาธารณะหรือไม่ นายพิธา ย้อนถามว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก่อนจะกล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่ใช้คำที่คล้ายๆ กัน ตนเข้าใจว่าโน้ส อุดม น่าจะหมายถึงความสโลว์ไลฟ์ที่เป็น Dilemma (ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก) ของคนกรุง ที่อยากจะไปใช้ชีวิต เท่าที่ได้ดูไม่เห็นว่ามีการพาดพิงไปถึงพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9
ส่วนประเด็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่มีการนำวลีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาใช้ว่า คนไทยมีกินมีใช้ เลิกตอ… นายพิธา กล่าวว่า ตนต้องชวนคนไทยตั้งสติ ดูบริบทของการเป็น Stand up comedy มันไม่ใช่การปราศรัย มันไม่ใช่วิชาการ ดูบริบทว่า Stand up comedy ของโน้ส อุดม ซึ่งเข้าใจว่าทำมาโดยตลอด เป็นเรื่องปกติที่จะดูว่าความอดทนอดกลั้นมีหรือไม่
นอกจากนี้ต้องเปรียบเทียบกับสากลโลก ที่เป็นระบบประชาธิปไตยที่อนุญาตให้มีความคิดสร้างสรรค์และอิสรภาพในการแสดงออก ตนคิดว่าเท่าที่ดูประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโดนหนักกว่านี้พอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยกันตั้งสติและดูว่าเป็นบริบทอะไร ในอดีตเขาเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่ เมื่อคุณไม่จับจ้องประโยคใดประโยคหนึ่ง คำพูดใดคำพูดหนึ่ง แล้วมองภาพให้มากขึ้นอย่างมีสติและวุฒิภาวะ ตนก็คิดว่าทำให้ทั้งสังคมได้ประโยชน์จากการที่มีอิสรภาพในการแสดงออก และสมดุลของความอดทนอดกลั้นที่ทำให้เราไม่พอใจ ถือเป็นสังคมประชาธิปไตย แต่หากเราเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็อาจจะเป็นเฟคนิวส์ก็ได้