จากกรณีดรามายูทูบเบอร์ บุกรุกบ้านคนอื่น อ้างเป็นบ้านผีสิง ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนพเก้า อายุ 48 ปี เจ้าของช่องยูทูบเบอร์ดังกล่าว เปิดใจว่า ตนเองตระเวนหาบ้านร้างเพื่อทำคลิปในหลายพื้นที่ ซึ่งในวันนั้นตนก็เข้าไปในพื้นที่ของบ้านหลังที่เกิดเหตุ และก็เห็นคุณป้าข้างบ้าน จึงสอบถามว่า บ้านหลังนี้ร้างหรือไม่ ซึ่งป้าก็บอกว่า “ไม่มีคนอยู่นะ และเห็นว่าจะขายด้วย” ตนเองจึงได้สอบถามป้าว่าเข้าไปได้หรือไม่ ป้าก็บอกว่าไม่เป็นไร ตนก็เลยถ่ายคลิป และไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นแบบนี้
ส่วนการเข้าไป ทั้งที่หน้าประตูบ้านมีแม่กุญแจที่คล้องอยู่ นายนพเก้า ก็ยืนยันว่า กุญแจแค่คล้องอยู่ แต่ไม่ได้ล็อก ตอนนั้นจึงขออนุญาตคุณป้าอีกที ว่าเข้าไปดูข้างในได้หรือไม่ ปรากฏป้าถามกลับมาว่า กุญแจล็อกไหม ตนก็บอกว่าไม่ได้ล็อก ก็เลยเอาเปิดเอากล้องถ่ายจากข้างนอก แต่ไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน
สำหรับข้อมูลที่ตนนำมาเสนอ เขียนแคปชันว่า บ้านหลังนี้ร้าง และลูกชายเพิ่งเสียชีวิต ตนเองก็ได้ข้อมูลมาจากคุณป้าข้างบ้านอีกเช่นกัน ซึ่งตนเป็นคนนอกพื้นที่ อยู่อำเภอสตึก ตนไปก็ไม่ได้มีข้อมูลอะไร ก็ได้ข้อมูลจากป้าข้างบ้านบอกมา เลยพูดไปตามรายละเอียดที่ป้าบอกมา
โดยหลังเกิดเหตุ ที่เจ้าของบ้านออกมาแสดงความเห็น นายนพเก้า อ้างว่า ตอนแรกที่มีคนมาแสดงความเห็น ตนเองก็ซ่อนคอมเมนต์ จนมีคนมาบอกว่าอย่าซ่อนคอมเมนต์ ตนเองก็เลยเชื่อว่าทางเจ้าของบ้าน คงไม่อยากให้ลบวิดีโอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับตนเอง และยืนยันว่า ตนเองก็ได้ไปขอโทษในคอมเมนต์ต่าง ๆ กับสิ่งที่ทำไป
ทั้งนี้อยากบอกกับเจ้าของบ้านว่า ตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่ได้กระทำโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน จนทำให้เกิดเหตุ และทำให้เจ้าของบ้านเสียหาย ต้องยอมรับ และก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
โดยหลังจากนี้ การทำคลิปต่าง ๆ เหตุการณ์นี้สะกิดใจตนเองมาก ต่อไปคงจะไม่กล้าเข้าไปก้าวก่ายบ้านใครอีกแล้ว และตนทำมาหลายบ้านก็ไม่ได้มีปัญหา
ก่อนเล่าว่าเมื่อก่อน เปิดช่องทำเกี่ยวกับรถแต่ต่อมาแขนหัก ก็เลยขี่รถจักรยานยนต์เก่าๆ เพลงเริ่มทำคลิปตระเวนหาบ้านร้าง กุฎีจนเจอบ้านหลังนี้ โดยตนเชื่อว่าป้าข้างบ้าน เป็นญาติกับเจ้าของบ้าน หรือเป็นอะไรกัน ถ้าไม่มีคนอนุญาต ตนก็คงไม่กล้าเข้า และถ้าไม่มีคนบอกข้อมูลตนเองก็คงไม่รู้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ยอมรับว่า รู้สึกกังวลใจเป็นธรรมดาในเมื่อเราอยู่ในเหตุการณ์แบบ นี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ ทั้งคอมเมนต์ที่แสดงความเห็นมา ตนเองก็หนักใจ ไม่สบายใจอยู่พอสมควร และเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตนเองมาก่อน ตั้งรับไม่ถูก เมื่อคืนก่อนที่จะลบคลิปก็ยังคุยกับแฟนว่าควรลบออก แล้วไปขอขมา ซึ่งส่วนตัวอยากไปขอขมาขอโทษด้วยตัวเอง แต่ทีนี้ก็รอดูตำรวจว่าจะเรียกไปเมื่อไหร่ เพราะตามหลักกฎหมายเข้าใจว่าจะต้องมีการไกล่เกลี่ยก่อน