วันนี้ 7 พ.ค.67 ที่ศาลอาญามีนบุรี นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสาวศรีพรรณ จำเลยกับพวกรวม 4 คน ในความผิดร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันลักทรัพย์ จากกรณีจำเลยทั้ง 4 คนกับพวกอีก 1 คน ซึ่งถึงแก่ความตายแล้ว ได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านของนายเหมทัศน์ ผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันรื้อทุบผนังกำแพงคอนกรีตด้านหลังบ้าน ทำเป็นประตูเข้าออกบ้านของผู้เสียหาย ถอดประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน หน้าต่างกระจกบานไม้ และต่อเติมหลังคาจอดรถหน้าบ้าน ต่อเติมครัว เชื่อมหลังคาระหว่างบ้านของผู้เสียหายเข้ากับบ้านข้างเคียง และยังได้ขโมยเอาประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านขนาดความยาว 4 เมตร สูง 1.2 เมตร ราคา 8,000 บาท หน้าต่างกระจกบานไม้ 2 บานราคา 6,000 บาท ที่จำเลยกับพวกถอดเปลี่ยนออกไป รวมถึงเครื่องสุขภัณฑ์ราคา 4,000 บาท รวมทั้งสิ้น 3 รายการราคา 18,000 บาทไป
เบื้องต้นจำเลยทั้ง 4 คนได้รับการประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 50,000 บาท
ล่าสุดศาลอาญามีนบุรีพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยกับพวกกระทำผิดจริง ในข้อหาร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น และร่วมกันลักทรัพย์ พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 22,000 บาท แต่จำเลยกับพวกให้การรับสารภาพประกอบกับไม่เคยต้องโทษมาก่อนและอายุมาก ศาลจึงลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 9 เดือน และปรับ 11,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ฝ่ายจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว 1 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงถอนฟ้องในข้อหานี้ไป เนื่องจากเป็นข้อหาที่ยอมความได้
ด้านผู้เสียหาย ระบุว่า ผลคำพิพากษาในวันนี้เป็นที่พอใจ ตัวอากู๋เองก็พอใจและไม่ติดใจ แต่อยากให้คดีนี้เป็นบทเรียน ต้องเคารพกฎของสังคมและกฎหมาย เมื่อทำผิด ก็ต้องมีบทลงโทษ มีข้อบังคับ ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ที่ใครจะทำก็ได้ และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนบ้านหลังดังกล่าว ขอไปปรึกษาครอบครัวก่อนว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไร แต่ไม่กลับเข้าไปอยู่แน่นอน