ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่คุณเต๋อ ซึ่งมีอาชีพเป็นไกด์ กำลังฝากเงินจำนวน 3 หมื่นบาท ผ่านตู้ฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารแห่งหนึ่ง ภายในห้างย่านบางกะปิ และจากนั้นคุณเต๋อ ก็เดินออกจากตู้ไป โดยที่ยังไม่ได้มีการกดยืนยันยอดเงินฝาก
จากนั้นจะเห็นว่ามีชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งยืนต่อคิวจากคุณเต๋อ ได้ไปทำธุรกรรมที่ตู้ฝากเงินตู้เดียวกันกับของคุณเต๋อ โดยในวงจรปิดจะเห็นว่าในขณะที่ช่องใส่เงินได้เปิดออก ชายหญิงคู่นี้ได้ยืนชะงักอยู่พักหนึ่ง เหมือนกับเห็นเงินปึกใหญ่อยู่ในช่องฝากเงิน และได้หันซ้ายหันดูว่าคุณเต๋อยังอยู่แถวนั้นหรือไม่
จากนั้นผู้ชายเสื้อสีดำได้หยิบเงินออกมาวางไว้ที่หน้าตู้ และผู้หญิงได้หยิบเงินออกมาจากช่องฝากเงินที่ยังเหลือ และเก็บเอาไว้ โดยเมื่อได้เงินแล้วทั้งสองคนก็ยืนอยู่ที่หน้าตู้ฝากเงินอีกสักพัก และมองว่ามีใครเห็นตอนหยิบเงินหรือไม่ เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงเดินหนีออกมาทันที
ล่าสุดคุณเต๋อ ได้มาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด โดยบอกว่าวันเกิดเหตุคือช่วงประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปฝากเงินที่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติที่ธนาคารจำนวน 3 หมื่นบาท (เป็นแบงก์พันทั้งหมด ) ซึ่งตนได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง และเมื่อตนได้ใส่เงินในช่องฝากเงินแล้ว ช่องฝากเงินก็ปิด และได้ยินเสียงเครื่องกำลังนับธนบัตร ตนจึงเดินออกมา เพราะคิดว่าการฝากเสร็จสิ้นแล้ว และจะได้รับข้อความจากธนาคารมายืนยันภายหลัง
จนผ่านไป 5 นาทีตนก็ยังไม่ได้รับข้อความ เลยไปถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่มีปัญหา เดี๋ยวธนาคารจะนำเงินเข้าให้ภายหลัง ซึ่งตนถามต่อไปว่าหากกรณีตนลืมกดยืนยันการฝากเงิน จะมีคนเอาเงินออกไปจากตู้ฝากเงินได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากธนาคารว่า ไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ เพราะตู้ฝากเงินมีระบบเซนเซอร์
สุดท้ายตนได้ขอดูกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ที่ตู้ฝากเงิน จึงเห็นว่าชายหญิงคู่นี้ซึ่งยืนต่อคิวตนอยู่ มาทำธุรกรรมที่ตู้ฝากเงินและหยิบเงินของตนไป
โดยชายหญิงคู่นี้ ตนเชื่อว่าอาจเป็นชาวต่างด้าว เพราะตอนที่ตนกำลังจะฝากเงิน เห็นทั้งคู่ยืนทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มอีกตู้หนึ่ง ซึ่งตู้นั้นเสีย ตนยังบอกให้มารอทำตู้เดียวกับตนเลย
ทั้งนี้ตนไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ลาดพร้าวแล้ว แต่คดีก็ไม่คืบหน้า ส่วนทางธนาคารก็ยังไม่มีท่าทีที่จะแสดงความรับผิดชอบเช่นกัน
ตนยอมรับว่าเหตุที่เกิดขึ้นตนประมาท ที่ไม่ทำธุรกรรมให้ครบตามขั้นตอน คือกดยืนยันการฝากเงิน และรอรับใบเสร็จยืนยันการฝากเงิน และตนอยากฝากถึงคนที่เอาเงินของตนไปว่าอยากให้เอาเงินกลับมาคืน
ทั้งนี้ในระหว่างที่คุณเต๋อ กำลังให้ข่าวกับสื่อมวลชน ปรากฎว่า คอลเซ็นเตอร์ของทางธนาคารได้ติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียดกับคุณเต๋อ และทางคอลเซ็นเตอร์ยืนยันว่า เงินที่หายไป เป็นการหายนอกธนาคาร โดยมีคนอื่นมาหยิบ เพราะตู้ที่ฝากเงินอยู่ด้านนอกธนาคาร ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของธนาคาร
ขณะที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณณงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ในกรณีนี้ ผู้เสียหายถือว่าเข้าข่ายประมาทเพราะยังทำธุรกรรมการฝากเงินกับธนาคารไม่ครบตามขั้นตอน ซึ่งธนาคารสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ แต่ผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความกับคนที่เอาเงินไปได้ เพราะเป็นความผิดในข้อหาลักทรัพย์
