คำพูดแรก 2 ลูกเรือผู้รอดชีวิต เล่านาทีก่อนเครื่องตก

จากกรณีเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737-8 เอเอส (737-8AS) ของสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน และลูกเรือ 6 คน รวม 181 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เหตุเกิดวันที่ 29 ธ.ค.67 โดยเครื่องบินประสบเหตุตกกระแทกไถลออกนอกรันเวย์ แล้วพุ่งชนกำแพงของสนามบิน

ท้งนี้สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดมีผู้เสียชีวิตเกือบยกลำ 179 ราย โดยมีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 2 ราย ซึ่งทั้งคู่เป็นลูกเรือของสายการบิน

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้รอดชีวิตทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยลูกเรือหนึ่งในสองรายผู้รอดชีวิต วัย 33 ปี มีรายงานว่า ได้คาดเข็มขัดนิรภัยก่อนเครื่องบินจะลงจอด แต่ก็ไม่สามรารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยมีอาการบาดเจ็บที่ไหลซ้ายและศรีษะร้าว มีสติรูกสึกตัวชัดเจน โดยลูกเรือดังกล่าวรับผิดชอบให้บริการผู้โดยสารบริเวณท้ายเครื่องบิน

ทั้งนี้แพทย์ที่รักษา สอบถามอาการกับลูกเรือว่า เขาเจ็บตรงไหนรึเปล่า? แทนที่จะบอกอาการของเขา เขากลับถามราวกับว่าเขาลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปชั่วขณะว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่

ภายหลังการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่า ลูกเรือมีชีพจรปกติและสามารถเดินได้ จากนั้นได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในกรุงโซลตามคำร้องขอจากครอบครัว

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเผยว่า “ผู้ประสบเหตุน่าจะคงอยู่ในอาการช็อกอย่างรุนแรง โดยคิดว่าที่เขาพูดประโยคเหล่านี้ออกมา อาจเป็นเพราะกังวลถึงความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสารก็เป็นได้”

ขณะเดียวกัน ด้านหน่วยดับเพลิงรายงานว่า ผู้รอดชีวิตอีกราย เป็นลูกเรือหญิง อายุประมาณ 20 ปี ได้รับการช่วยเหลือมาพร้อมกัน ขณะยังคงอยู่ระหว่างรับการรักษาที่โรงพยาบาลมกโพ โดยเธอเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีควันออกมาจากเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งของเครื่องบิน จากนั้นเครื่องก็ระเบิด

ทั้งนี้ รายงานเผยว่า ลูกเรือทั้งสองคนรับผิดชอบอยู่ในส่วนทางออกฉุกเฉินด้านหลัง และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ เนื่องจากส่วนหางด้านหลังของเครื่องบินหลุดออกระหว่างการระเบิดของเครื่อง