หมอแนะนำ 3 ช่วงเวลาทองคำ เหมาะกับการ “ดื่มน้ำ” ช่วยขับสารพิษออกถึง 50%

รู้ไว้ดีกว่า 3 ช่วงเวลาสำคัญของร่างกายที่ควรดื่มน้ำ หมอรับรอง ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ถึง 50%

วันนี้คุณขับสารพิษออกจากร่างกายแล้วหรือยัง? คลินิกแพทย์แผนจีนเฉิงกวน ระบุว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขับสารพิษจากร่างกายมี 3 ช่วง ได้แก่

  • ช่วงเช้า ระหว่าง 05.00 – 07.00 น. การดื่มน้ำอุ่นหลังตื่นนอนช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
  • ช่วงบ่าย ระหว่าง 13.00 – 15.00 น. ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด
  • ช่วงค่ำ ระหว่าง 17.00 – 19.00 น. ควรออกกำลังกายและดื่มน้ำมากๆ เพื่อขับสารพิษ สร้างสุขภาพที่แข็งแรง ป้องกันการเจ็บป่วย

เพจคลินิกแพทย์แผนจีนเฉิงกวน ระบุว่า ร่างกายขับสารพิษหลักๆ ผ่านการขับถ่าย ปัสสาวะ และเหงื่อ ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ต้องการการดูแลให้มีความสะดวกในการขับออก แพทย์แนะนำว่า ผู้ใหญ่ควรกินผักประมาณ 500 กรัม และธัญพืชที่ไม่ขัดสีในปริมาณพอเหมาะทุกวัน เพื่อช่วยให้ลำไส้แข็งแรงและส่งเสริมการขับถ่าย ซึ่งการขับถ่ายช่วยขับสารพิษออกได้ถึง 50% ดังนั้นการออกกำลังกายและการเข้าห้องน้ำเป็นประจำจึงสำคัญ

ตามข้อมูลจากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน ระบุว่า ร่างกายจะขับน้ำออกประมาณ 600-800 ซีซี ผ่านการหายใจและผิวหนังในหนึ่งวัน รวมทั้งต้องขับปัสสาวะประมาณ 7-8 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 300-400 ซีซี ดังนั้นหากคำนวณจากปริมาณน้ำที่ขับออก จะพบว่าร่างกายต้องการน้ำอย่างน้อย 4,000-5,000 ซีซีต่อวัน

แต่ในความเป็นจริง ร่างกายได้รับน้ำจากอาหารด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำเพื่อทดแทนจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 ซีซี ต่อวัน โดยขณะดื่มน้ำควรดื่มช้าๆ และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเร็วหรือในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้ไตเสียหายได้

ศัลยแพทย์ เฉิน หรงเจียน กล่าวว่า ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำถึง 60-70% โดยการคำนวณง่ายๆ คือ น้ำ 30 ซีซี ต่อ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักตัว ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมควรดื่มน้ำประมาณ 2,100 ซีซีต่อวัน และควรปรับเพิ่มหรือลดตามการออกกำลังกายหรือกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน

โดยทั่วไป หากการทำงานของไตเป็นปกติ ปัสสาวะที่มีสีเหลืองอ่อนหมายถึงร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ หากปัสสาวะใสอาจหมายถึงการดื่มน้ำมากเกินไป แต่หากปัสสาวะมีสีเข้มเหมือนสีน้ำตาลแสดงว่าคุณดื่มน้ำไม่พอในวันนั้น

การดื่มชาหรือกาแฟแทนน้ำได้ไหม?

หมอเฉิน หรงเจียน กล่าวว่า ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ล้วนมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ และกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งหมายความว่า “ร่างกายของคุณต้องการน้ำ แต่คุณกลับเติมสารเคมีอื่นเข้าไป ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกายในทางที่ต่างออกไป”

การดื่มชาและกาแฟก่อนนอนทำให้ตื่นขึ้นกลางดึกเพื่อไปเข้าห้องน้ำ และยังทำให้ระบบประสาทตื่นตัว ส่งผลให้คุณภาพการนอนแย่ลง หากเปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดลมก็จะได้รับน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก ซึ่งอาจทำให้อ้วน และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งลำไส้ใหญ่

หมอเฉิน หรงเจียน เน้นย้ำว่า “การใช้สิ่งอื่นแทนน้ำเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด เมื่อร่างกายต้องการน้ำ ก็ให้ดื่มน้ำอย่างถูกต้อง ดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ และทำให้ทุกคนเข้าใจว่าน้ำไม่สามารถทดแทนด้วยเครื่องดื่มชนิดอื่นได้”

การปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ โดยการดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอทุกวัน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี