เมื่อ 3 ปีก่อน “นายจาง” แต่งงานกับ “นางหยาน” ภรรยาวัย 27 ปี แต่หลังจากเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาก็ต้องเดินทางไปทำงานที่ฝูเจี้ยน สามารถกลับบ้านได้ปีละครั้งเท่านั้น ทำให้เขากังวลที่ภรรยาต้องอยู่บ้านตามลำพัง จึงติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อคอยตรวจสอบความปลอดภัยที่บ้าน
สถานการณ์ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี กระทั่งต้นเดือนตุลาคมปีนี้เอง จู่ๆ นายจางก็เห็นว่าภรรยามักจะออกไปข้างนอกเกือบทุกคืน และไม่ได้กลับบ้านจนกว่าจะเช้าตรู่ เมื่อสอบถามภรรยาก็ตอบว่า ช่วงนี้เธอหลงรักการวิ่ง จึงออกไปจ๊อกกิ้งตอนกลางคืน
เมื่อได้ฟังคำตอบนั้นเขาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขา “ไม่สนับสนุน” เพราะเชื่อว่าการออกไปข้างนอกตอนดึกๆ ไม่ปลอดภัย ดังนั้น จึงเตือนผ่านทางโทรศัพท์หลายครั้ง ซึ่งภรรยาก็รับปากว่าจะไม่ออกไปวิ่งตอนกลางคืนอีก อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงการรับปากทางวาจาเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติเธอยังคงทำตัวเหมือนเดิม ออกไปจ็อกกิ้งตรงเวลา 21.00 น. เสมอ
จุดพีกอยู่ตรงวันที่ 27 ตุลาคม นายจางซึ่งทำงานอยู่ จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากหญิงลึกลับคนหนึ่ง บอกว่า “คุณควรกลับบ้านมาหาภรรยาของคุณดีกว่า มีเรื่องน่าอายในหมู่บ้าน ฉันไม่อยากให้เรื่องใหญ่โตและทำลายชื่อเสียงของทั้งสองตระกูล ถ้าคุณไม่กลับมาควบคุมภรรยาของคุณ ฉันก็จะไม่สุภาพอีกต่อไป” หลังจากที่พูดจบก็วางสายไป และเมื่อโทรกลับก็ไม่สามารถติดต่อได้
คำพูดของหญิงลึกลับทำให้นายจางรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้น เขาจึงกลับมาบ้านเกิดในวันที่ 29 ตุลาคม และรีบตรวจสอบและสอบถามเรื่องทั้งหมดอย่างเร่งด่วน และพบความจริงว่า สถานที่ที่ภรรยาของเขาออกไปทุกคืนนั้น คือบ้านของ “นายซุน” ที่อาศัยอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน และมีภรรยาทำงานกะกลางคืนในโรงงานทอผ้าไหมของเมือง ภรรยาของเขาจึงอาศัยช่วงเวลานี้แอบออกไปมีความสัมพันธ์กัน
หลังจากตรวจสอบจนได้หลักฐานที่ชัดเจนแล้ว นายจางก็ยื่นฟ้องหย่าภรรยาทันทีโดยไม่ใจอ่อน แม้ว่าภรรยาจะไม่ยอมตกลงหย่าก็ตาม ทำให้ขณะนี้ความสัมพันธ์สามี-ภรรยาตามกฎหมายของทั้งคู่กำลังอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย
ทางด้านชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “สถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้หญิงบางคนโกหกเก่ง ถ้าเธอไม่มีจิตใจที่มั่นคง ไม่ช้าก็เร็วชีวิตคู่จะต้องประสบความสูญเสีย!” , “แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้หญิงจะวิ่งคนเดียวตอนกลางคืน หากฉันแม้ว่าหญิงลึกลับจะไม่โทรหาฉัน ฉันก็ยังคงสงสัยภรรยาอยู่ดี”