แจ้งจับ ส.ต.ต. ข่มขืนนักศึกษาแลกคดี รถชนเป่าตรวจเมาขับ เหยื่อยอมได้ใจขออีก

นักศึกษาสาวแจ้งจับ ส.ต.ต.บังคับมีเพศสัมพันธ์ แลกไม่ต้องถูกดำเนินคดีเมาขับ หลังขับรถเฉี่ยวชนคู่กรณี สิบเวรเรียกเป่าวัดแอลกอฮอล์ถึง 103 ก่อนยื่นข้อเสนอ เรียกเงิน 1 หมื่น กับขอหลับนอนด้วย ขู่หากไม่ยอม เจอคุกกับค่าปรับถึง 2 หมื่น เหยื่อกลัวไม่กล้าขัดขืน สุดท้ายกลับไม่ยอมจบติดต่อจะมาหาที่คอนโดอีก ถ้าไม่ให้จะแบล็กเมล์ เครียดจนทนไม่ไหวตัดสินใจร้องมูลนิธิปวีณาฯช่วยจี้เอาผิดตำรวจนอกรีต

เหตุฉาวโฉ่วงการตำรวจ ส.ต.ต. สิบเวร บังคับขืนใจนักศึกษาสาวแลกไม่ต้องถูกดำเนินคดีเมาขับ แถมขู่แบล็กเมล์จะขอมีอะไรอีก เหยื่อร้อง “ปวีณา” ช่วย เปิดเผยเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิระบุว่า ถูกตำรวจยศ ส.ต.ต. ทำหน้าที่สิบเวร สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เรียกเงิน 1 หมื่นบาท และบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาขับ ขู่ว่าหากไม่ยอมจะต้องติดคุกและเสียค่าปรับ 2 หมื่นบาท ด้วยความกลัวจึงยอมทำตาม แต่ตำรวจนายดังกล่าวยังไม่ยอมจบติดต่อให้ไปหลับนอนด้วย หากไม่มาขู่แบล็กเมล์

น.ส.บีเล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 5 ทุ่มเศษ ตนขับรถกลับบ้านเกิดเฉี่ยวชนกับรถเก๋งอีกคันย่านคลองสี่ อ.ธัญบุรี หลังจากเรียกบริษัทประกันมาจัดการความเสียหายรถทั้ง 2 คัน คนขับรถคู่กรณีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ระหว่างตนอยู่โรงพักมีตำรวจสิบเวร ยศ ส.ต.ต.เรียกเข้าไปในห้องบอกให้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ขึ้น 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นตำรวจเรียกไปคุยหน้าห้องน้ำข้างโรงพักที่ไม่มีกล้องวงจรปิดบอกให้เซ็นชื่อใบที่เป่าแอลกอฮอล์ 2 ใบ แยกเป็นใบที่เป็น 0 ให้บริษัทประกันเพื่อเคลมรถซ่อม ส่วนอีกใบที่ขึ้น 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องจ่ายเงิน 10,000 บาท ถ้าไม่รับข้อเสนอจะต้องติดคุก และถูกปรับอีก 20,000 บาท

ต่อมาช่วงวันที่ 1 ก.ย. ตำรวจนายคนดังกล่าวขับรถกระบะส่วนตัวมารับที่คอนโดมิเนียมย่านรังสิตแล้วพาไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ธัญบุรี อ้างว่ากรณีรถเฉี่ยวชนเกิดจากความประมาทของตน เสร็จแล้วพามาส่ง ตนยื่นเงิน 10,000 บาทให้ในรถตามที่ตกลง วันรุ่งขึ้นเดินทางไปติดต่อเพื่อขอเอกสารใบเป่าแอลกอฮอล์ที่ระบุ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เพราะกลัวถูกย้อนดำเนินคดีภายหลัง แต่ตำรวจคนดังกล่าวไม่ยอมให้ ก่อนพาไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังดื่มกินหมดไปหลายแก้ว ตำรวจยื่นข้อเสนอหากอยากได้เอกสารต้องยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ด้วยความกลัวจำยอมมีอะไรด้วยที่คอนโด แต่หลังมีอะไรกันแล้ว ตำรวจกลับยื้อไม่ยอมให้อีก

“เดิมหนูป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วพอเจอเรื่องแบบนี้ยิ่งทำให้เครียดหนักจนอาการกำเริบ ต้องเข้านอนรักษาตัวโรงพยาบาลถึง 3 วัน พอออกมาพักฟื้นที่ห้องกลับถูกตำรวจคนดังกล่าวโทร.ติดต่อมาบอกว่าจะมาหาที่คอนโดตอน 2 ทุ่มคืนนี้ ถ้าไม่ยอมก็ข่มขู่จะนำเรื่องไปแบล็กเมล์ ทำให้เกิดเสียหาย จนทนไม่ไหวตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ” น.ศ.สาวเหยื่อตำรวจนอกรีตกล่าว

หลังรับเรื่องนางปวีณาพา น.ส.บี ผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.ธัญบุรี และเข้าพบ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี ให้ช่วยจี้คดี ด้าน พ.ต.อ.จิรวัฒน์เปิดเผยว่า มอบหมายให้ พ.ต.ต.กฤษณะ ศรีโสภา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ธัญบุรี รับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหาย รวมถึงดูเรื่องพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล หรือวัตถุพยานต่างๆที่เกี่ยวกับบุคคล เพื่อดูว่ามีมูลความผิดหรือไม่ ถ้าได้หลักฐานทุกอย่างครบแล้วก็จะมาดูว่าได้กระทำผิดในข้อหาอะไรบ้าง

ผกก.สภ.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า ตำรวจนายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ประจำวัน ทำหน้าที่ลงบันทึกดูแลประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในโรงพัก ตำรวจนายนี้มาอยู่โรงพักได้ประมาณ 2 ปี ไม่เคยมีเรื่องประเภทนี้ เบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลไปแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดอะไร ทั้งนี้ จะเรียกตัวมาพูดคุยต่อไป เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด หากมีการทุจริตสามารถแยกไปหลายอย่าง ถึงขั้นออกจากราชการได้ ส่วนความปลอดภัยของนักศึกษาผู้เสียหายเป็นเรื่องสำคัญ คิดว่าตำรวจนายนี้คงไม่น่าจะทำอะไรรุนแรงแบบนี้ แต่ก็ไม่ประมาท จะดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้เกิดความมั่นใจ สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่