ระเบิดนำวิถีรัสเซียบึ้มอพาร์ตเมนต์ในคาร์คีฟ ดับ 3 เจ็บ 52 ‘เซเลนสกี’ วอนพันธมิตรช่วยเหลือเพิ่ม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ระเบิดนำวิถีของรัสเซียได้ตกใส่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองคาร์คีฟ เมืองขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 22 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 52 ราย และทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือเพื่อรับมือกับการโจมตีด้วยอาวุธในลักษณะดังกล่าวที่มีมากขึ้น

ภาพที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์เผยให้เห็นซากอาคารอพาร์ตเมนต์ กระจกที่แตก ระเบียงของอาคารที่พังเสียหาย และเศษหินที่กระจายอยู่ใกล้กับหลุมระเบิด อัยการของเมืองคาร์คีฟให้ข้อมูลว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บ 52 รายเป็นเด็ก 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย

ในช่วงที่ผ่านมา รัสเซียได้หันมาใช้การโจมตีด้วยระเบิดนำวิถีมากขึ้นเพราะประหยัดเงินมากกว่า สามารถทิ้งจากระยะไกล และลดความเสี่ยงให้แก่กองทัพรัสเซียเอง

ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนโพสต์ข้อความลงบนเทเลแกรมว่า ความน่ากลัวของระเบิดนำวิถีของรัสเซียควรที่จะหยุดและมันสามารถหยุดลงได้ เราต้องการการตัดสินใจที่หนักแน่นจากพันธมิตรของเราเพื่อทำให้เราหยุดผู้ก่อการร้ายของรัสเซียและกองทัพอากาศของรัสเซียเอาไว้ได้

เซเลนสกียังได้กล่าวในช่วงค่ำวันเดียวกันว่า กองทัพรัสเซียได้ใช้ระเบิดนำวิถีใส่เป้าหมายในยูเครนไปแล้ว 2,400 ลูกในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว โดยในจำนวนนั้น 700 ลูกได้ถูกนำมาโจมตีใส่เมืองคาร์คีฟ และหลังจากที่สภาคองเกรสของสหรัฐได้อนุมัติการส่งมอบความช่วยเหลือครั้งใหญ่ในเดือนเมษายน คลังอาวุธของยูเครนที่ได้รับอาวุธเพิ่มได้ลดความเสียหายและความถี่ของการโจมตีด้วยขีปนาวุธและจะต้องมีความช่วยเหลือเหล่านี้อีกครั้งเพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันตัวจากระเบิดนำวิถี