ช่วยแล้ว เด็กหญิง 7 ขวบถูกแม่ทำร้าย-ใช้ปืนจี้หัว ก่อนส่งคลิปรีดเงินผัวชาวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าว ได้รับคลิปจาก ชายชาวต่างชาติ สัญชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นอดีตสามีหญิงชาวไทยรายหนึ่งจนมีบุตรสาวด้วยกัน โดยฝ่ายชายชาวต่างชาติรายนี้ สุดทนกับพฤติกรรมของอดีตภรรยาชาวไทย ที่ใช้วิธีการใช้ผ้ามัดคอบุตรสาวแล้วหิ้วขึ้นจนตัวลอยเพื่อให้บุตรสาวร้องไห้จนสงสาร แล้วฝ่ายหญิงรายนี้ส่งคลิปดังกล่าวไปให้สามีชาวต่างชาติรายนี้ เพื่อจะขู่ให้ส่งเงินมาให้

ล่าสุด วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไป ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากมีพลเมืองดี ส่งข้อมูลและคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง สามีชาวต่างชาติ ของหญิงคนดังกล่าวบันทึกเอาไว้ ระหว่างที่มีการวิดีโอคอลกันข้ามประเทศ เป็นภาพความรุนแรงที่แม่กระทำต่อบุตรวัยสาววัยเพียง 7 ขวบ เพื่อข่มขู่เอาเงินจากสามีชาวต่างชาติมาให้ผู้สื่อข่าว เพื่อช่วยนำเสนอและเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยไว้นาน เด็กอาจจะได้รับอันตรายไปมากกว่านี้

นางสมศรี อายุ 61 ปี กรรมการหมู่บ้าน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นางสุดารัตน์ เคยมีสามีเป็นคนไทย มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนที่จะเลิกรากันไป และมาแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับ สามีคนที่ 2 ซึ่งคือ อาเดรียน อายุ 52 ปี ชาวอังกฤษ กระทั่งมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ น้องอลิส อายุ 7 ขวบ

ต่อมานายอาเดรียน เดินทางกลับไปทำงานที่อังกฤษ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมลูก แต่ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรนั้น นายอาเดรียน จะเป็นคนรับผิดชอบและโอนมาให้ นางสุดารัตน์ ทุกเดือน ต่อมานางสุดารัตน์ เริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ละครั้งเมื่อต้องการเงิน นางสุดารัตน์ ก็จะวิดีโอคอลไปหาสามี และทำพฤติกรรมที่รุนแรงกับ น้องอลิส ให้สามีดู โดยพฤติกรรมนั้นบางครั้งก็จะใช้ผ้ารัดคอเด็กบ้าง และ เอาปืนมาจ่อหัวลูกบ้าง และบอกกับสามีว่าหากไม่ได้เงิน จะฆ่าน้องอลิสทิ้ง

ด้วยคนที่เป็นพ่อ เกรงว่า นางสุดารัตน์ จะกระทำกับลูกของตน จึงรีบโอนตั้งมาให้ ตามคำขู่ จน นายอาเดรียน ทนไม่ไหวถึงกลับร้องไห้ รีบส่งคลิปดังกล่าว ไปให้กับนางนารี ซึ่งเป็นแม่ของนาสุดารัตย์ ดูเพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมานางนารี ซึ่งพักอยู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกรงว่าน้องอลิส จะได้รับอันตราย จึงส่งคลิปมาให้ตน

แต่เมื่อไปตรวจสอบ ที่บ้านของนางสุดารัตน์ พบว่านางสุดารัตน์ พาน้องอลิส เดินทางไปที่ต่างจังหวัดแล้ว ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บางปู นางสมศรี กล่าวอีกว่า นางสุดารัตย์ มีพฤติกรรมที่รุนแรง ชอบตบตีลูก ช่วงหลังเริ่มถี่ขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการด้วย ส่วนนายอาเดรียน ทราบว่าจะเดินทางมาที่ประเทศไทยเดือนหน้า เพื่อทำเรื่องขอลูกกลับไปเลี้ยงเอง แต่จะทำได้มากแค่ไหนนั้น ขอให้สื่อช่วยนำเสนอข่าวเพื่อให้หน่วยงานช่วยเหลือด้วย

ด้าน น้องโย อายุ 14 ปี ลูกชายคนโต (ลูกกับสามีคนแรก) กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกคนละพ่อ กับน้องอลิส ที่ผ่านมาแม่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อแม่ต้องการเงินก็จะขู่น้องและทำให้น้องร้องไห้ ก่อนที่จะส่งคลิปไปให้ พ่อเลี้ยงของตนดู

ล่าสุดแม่จะเอาปืนมายิงตน เนื่องจากไม่ได้เงิน 1.7 หมื่นจากพ่อเลี้ยง อ้างว่าจะเอามาซื้อชุดนักเรียนให้ตน จนพ่อเลี้ยงต้องโอนมาให้ ตนเองก็ไม่รู้แม่เอาเงินไปทำอะไร ทำบ่อย ส่วนตามตัวน้องไม่ได้ดูว่ามีแผลไหม

ล่าสุด พม. เข้าไปรับตัวน้องมาแล้ว ส่วนแม่ไม่ทราบว่าอยู่ไหน แต่น้องปลอดภัยแล้ว ส่วนพ่อเลี้ยงยังไม่ได้คุยเลย ต้องรอถามอีกที ผมก็กลัวแม่เหมือนกัน เพราะแม่มีปืน มีปืนมาขู่ เพื่อรีดเงินพ่อเลี้ยง พยายามทำให้น้องร้อง ส่วนพ่อเลี้ยงอยู่อังกฤษ ไม่ได้อยู่ด้วย

ขณะที่ทางคณะกรรมการชุมชนติดต่อไปยังฝ่ายยายของเด็ก เพื่อร่วมกันหาทางออก เพื่ออนาคตของเด็กรายนี้ โดยมีการเสนอให้ติดต่อกลับไปยังชายชาวต่างชาติ เพื่อขอให้รับเด็กทั้ง 2 เป็นบุตรบุญธรรมแล้วรับกลับไปดูแลที่อังกฤษ เพื่อให้พ้นจากฝ่ายหญิง เพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัย แต่หากให้ทาง พม. เข้ามาดูแลรับตัวเด็กไปก็เกรงว่าเด็กจะไม่คุ้นและไม่มีความสุข ซึ่งฝ่ายคุณยายก็รับทราบและรับไปพิจารณา

ขณะที่มีรายงานฝ่ายหญิงรายนี้ยังแอบคบซ้อนกับชายซึ่งตามรายงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยแอบคบกันขณะที่ฝ่ายสามีชาวต่างชาติกลับประเทศ

นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงที่ฝ่ายหญิงรายนี้ใช้บุตรสาวส่งข้อความเสียงไปหาสามีชาวต่างชาติเพื่อขู่เอาเงินหากไม่ทำตามก็จะทำร้ายบุตรสาวจนบุตรสาวร้องไห้ขอให้พ่อช่วย