วันที่ 3 พ.ค. ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุคนร้ายเป็นชายบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ในท้องที่บ้านโนนสามัคคี ม.12 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ของนางอุไร อายุ 42 ปี ม.5 ต.โคกกล่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ผู้อยู่อาศัยเพื่อหวังข่มขืน ซึ่งต่อมามีการทำร้ายและต่อสู้กันจนเป็นเหตุชายหนุ่มเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย
พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจรถยนต์ สายตรวจตำบล ร้อยเวรสอบสวน และชุดสืบสวน สภ.โซ่พิสัย ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงพบศพนายบรรจง อายุ 32 ปี อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุราว 150 เมตร เสียชีวิตในท่าคว่ำหน้าไม่สวมใส่เสื้อผ้าอยู่บนเสื่อที่มีผ้าห่มปูทับเป็นที่นอน ที่บริเวณลำคอมีเสื้อสีกรมท่าคล้องอยู่
นายบุญเรือง ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ตายมีประวัติการใช้สารเสพติด เคยต้องโทษมาแล้ว 2-3 ครั้ง ข้อหาบุกรุก ข้อหาอาวุธปืน ค่อยข้างเกเร ก่อนหน้าเป็นคนติดยา ถ้าเขาไม่เสพยาเขาก็เป็นคนดี ญาติพี่น้องต่างเอือมระอา เพราะเขาชอบโวยวายทะเลาะกับญาติ กระทั่งแม่ของเขาก็อยู่บ้านเดียวกับเขาไม่ได้ ต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเพราะทนไม่ไหวเวลาที่นายบรรจงอาละวาด และกลัวว่าจะถูกนายบรรจงทำร้าย
นางอุไร อายุ 42 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเอง ได้รู้จักกับผู้ตายจริง แต่ไม่เคยพูดคุย ไม่ได้สนิทสนมกัน เป็นการส่วนตัว ในวันที่เกิดเหตุ เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ขณะฝนกำลังจะตก ได้ยินเสียงดังก๊อกแก๊กจากหลังบ้าน นึกว่าเป็นแม่ของผู้ตาย ก็เลยหันไปดู พร้อมกับเรียกว่า ยาย กลับไม่ใช่เป็นผู้ตาย เขาก็กระโจนเข้ามาหาเลย ใช้ผ้าปิดปาก ตัวเองก็ร้องๆๆ เสียงดัง แต่ไม่มีใครได้ยิน ผู้ตายก็บอกไม่ต้องร้อง ขอให้ยอมเขา พร้อมกับเอามือมาอุดปาก ตัวเองก็เลยกัดไปที่นิ้วผู้ตายเขาก็เลยปล่อย ต่อสู้กันไปกันมาตัวเองก็หมดแรงที่จะสู้ นานกว่า 30 นาที ตนสังเกตไปเห็นผ้าอยู่ที่ลำคอ สงสัยเป็นผ้าที่เขามัดปิดบังใบหน้ามา ก็เลยดึงผ้าอยู่ที่คอโดยใช้ทั้ง 2 มือดึงผ้าอย่างแรงจนเขาเงียบไป เลยรีบเปิดหน้าต่างปีนออกไปวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่จักรกฤษณ์ ผาสุทร เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้พาผู้สื่อข่าวตรวจสอบบริเวณหลังบ้าน พบรอยงัดที่กลอนประตู คาดว่าผู้ตายน่าจะกระชากประดูจนกลอนหลุดจากไม้ และเข้าไปพยายามจะข่มขืนนางอุไร ซึ่งจากการชันสูตรร่วมกับแพทย์ รพ.โซ่พิสัย ไม่พบร่องรอยการต่อสู้อื่น ๆ และไม่พบบาดแผลที่ศพของผู้ตาย นอกจากร่องรอยผ้ารัดคอ จึงคาดการณ์ว่าเหตุน่าจะเป็นไปตามคำให้การของผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตามด้านกฎหมาย พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย กล่าวว่า ได้แจ้งความข้อหาบุกรุกและพยายามข่มขืนแก่นายบรรจง ผู้ก่อเหตุถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนางอุไร ผู้เสียหายก็ต้องถูกแจ้งความเช่นกันฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผู้เสียหายพยายามป้องกันตัว ซึ่งหากผู้เสียหายจะประกันตัวทาง สภ.ก็ไม่ขัดข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาญาติๆ ได้นำศพของนายบรรจง ผู้ก่อเหตุ ไปทำพิธีฌาปนกิจแล้วพร้อมกับนำพระสงฆ์มาสวดทำพิธีที่บ้านตามประเพณี ซึ่งญาติก็ไม่ประสงค์จะเอาเรื่องเอาความกับผู้เสียหายเพราะรู้นิสัยนายบรรจงดี