การอาบน้ำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เราทำความสะอาดร่างกายและปกป้องสุขภาพได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ดี หลังจากเรียนหรือทำงานมาทั้งวัน เมื่อกลับถึงบ้านหลายคนมักจะอาบน้ำเร็วๆ เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น นิสัยหนึ่งที่พบบ่อยคือการสระผมก่อน หรือฉีดฝักบัวลงบนศีรษะก่อนเริ่มทำความสะอาดร่างกาย
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าฝ่ายศัลยกรรมประสาทของโรงพยาบาลสวิ่ยจิน ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แนะนำว่าในสภาพอากาศหนาวเย็น เพื่อป้องกัน “ปัญหาที่เกี่ยวกับสมอง” ไม่ควรสระผมก่อนแล้วจึงอาบน้ำ ลำดับการอาบน้ำที่ไม่ถูกต้องนั้น ไม่เพียงส่งผลต่อการทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
ขั้นตอนการอาบน้ำที่ถูกต้องตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือ ล้างหน้า อาบน้ำทั้งตัว และสระผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ขั้นตอนแรก: ล้างหน้าก่อน
เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ห้องน้ำ การสัมผัสกับอุณหภูมิและความชื้นสูงจะทำให้รูขุมขนบนใบหน้าและร่างกายขยายตัว ดังนั้น หากไม่ล้างหน้าก่อน ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมบนใบหน้าตลอดทั้งวันจะซึมลึกเข้าไปในรูขุมขน และทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น สิวอุดตัน ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการล้างหน้าเมื่อกลับถึงบ้าน
ตามรายงานจาก Health Sina ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ล้างหน้าวันละ 3 ครั้ง คือ หลังตื่นนอน หลังพักกลางวัน และก่อนอาบน้ำในตอนเย็น โดยไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นร้อนขณะอาบน้ำ ควรใช้น้ำอุ่นแค่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายผิวที่อาจทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
ขั้นตอนที่ 2: อาบน้ำทั้งตัว
หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดร่างกาย เราสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย การทำเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ขยายรูขุมขน ขับเหงื่อและสิ่งสกปรกออกจากร่างกายให้หมดสิ้น โดยทุกๆ 1 กิโลกรัมของเหงื่อที่ร่างกายขับออกมา จะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 540 แคลอรี และการอาบน้ำด้วยน้ำร้อน 40 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที จะช่วยเผาผลาญได้ราว 200 แคลอรี
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในเรื่องเวลา โดยให้จำกัดการอาบน้ำในน้ำอุ่นไม่เกิน 20 นาที และควรแน่ใจว่าห้องน้ำมีการระบายอากาศที่ดี ทั้งนี้ เนื่องจากการอาบน้ำเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อย ในเวลานี้คุณสามารถหลับตาผ่อนคลายร่างกาย และให้ร่างกายของได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
ควรระวังไม่ขัดถูหรือขัดแรงเกินไป การขัดถูผิวหนังแรงๆ ระหว่างอาบน้ำ อาจทำให้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บและทำลายชั้นหนังกำพร้าที่มีความหนาเพียง 0.1 มิลลิเมตร แต่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่สำคัญในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียและรังสีอันตรายจากการเข้าถึงผิวหนัง อีกทั้งการถูแรงๆ ยังทำให้ผิวแห้งและเกิดอาการคันได้ อาจนำไปสู่การเกิดโรคผิวหนังต่างๆ เช่น การอักเสบของรูขุมขน สิว และโรคผิวหนังอื่นๆ
ขั้นตอนที่ 3: สระผม
เมื่อเส้นผมได้รับความชื้นจากไอน้ำในระหว่างการอาบน้ำ นี่จะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสระผม เริ่มจากการทำให้ผมเปียกทั้งหมดแล้วจึงเริ่มสระทำความสะอาด ใช้นิ้วมือเกาเบาๆ จากบริเวณศีรษะแล้วไล่ลงไปที่ปลายผม หลังจากล้างแชมพูออกหมดแล้ว ให้ใช้ครีมนวดผม แล้วนวดหนังศีรษะอย่างเบามือประมาณ 3-5 นาที จากนั้นใช้หวีซี่ห่างๆ สางผมอย่างเบามือ และล้างน้ำจนสะอาด
ควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำที่ร้อนเกินไป เพราะจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ผลิตน้ำมันมากเกินไป และอาจทำให้เกิดรังแคได้ แม้ว่าน้ำร้อนจะช่วยผ่อนคลาย เพิ่มการไหลเวียนเลือด และช่วยขับสารพิษออกจากหนังศีรษะ แต่การหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนเกินไปจะช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้งและหลุดลอก หากอากาศหนาวมากสามารถใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 40-45 องศาเซลเซียสได้ นอกจากนี้ ควรนวดหนังศีรษะอย่างเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนกับเส้นผมมากเกินไป